

Black Hole หรือ หลุมดำในอวกาศ มีความลึกไม่มีสิ้นสุด สิ่งต่าง ๆ เมื่อหล่น ลงไปในหลุมดำแล้ว จะไม่สามารถออกมาจากหลุมได้เลย แม้กระทั่งลำแสงหรือ คลื่นวิทยุก็ไม่สามาถผ่านออกมาได้ เมื่อหล่นลงไปในบริเวณหลุมดำเปรียบเสมือน เป็นกับดักมฤตยูมองไม่เห็นตัวอยู่ในอวกาศ สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้มันจะถูกดูดลง ไปในหลุมดำ แต่ยังนับว่าโชคดีว่า หลุมดำ ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด อยู่ห่างจากดวง อาทิตย์ของเราหลายพันปีแสง ถ้าหลุมดำใกล้กับสุริยจักรวาลของเรามาก ๆ ดวง อาทิตย์และโลกของเราจะถูกหลุมดำดูดลงหลุมไป นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า หลุมดำ เกิดจาก ระเบิดของซุปเปอร์โนวา ในบาง กรณีเมื่อซุปเปอร์โนวาระเบิด เศษที่เหลืออยู่จะกลายเป็นนิวตรอน มีความหนาแน่น สูงมาก แต่ถ้าดาวนิวตรอนที่เกิดขึ้น มาจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวา มีมวล มากกว่าดวงอาทิตย์ 3 เท่าตัวแล้ว มักจะมีแรงดึงดูดภายในตัวมาก จนดาวนิวตรอน ยุบตัวกลายเป็นหลุมดำ
ขบวนการเกิดหลุมดำ จากดาวนิวตรอน จะมีขั้นตอนดังนี้ เมื่อดาวนิวตรอน ยุบตัวลงไปเรื่อย ๆ มีขนาดเล็ก ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่อำนาจแรงดึงดูดจะมีมากขึ้น ๆ ยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแสงของดวงดาว ไม่สามารถหนีพ้นออกไปจากแรงดึง ดูดของดวงดาวและจะมองไม่เห็นดวงดาวอีกเลย เมื่อดวงดาวมามีสภาพเช่นนี้สิ่ง ที่เกิดขึ้นกับดวงดาวในขั้นต่อไปก็คือ ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งอำนาจแรงดึงดูดภายในตัว ของมันได้ ดวงดาวจะยุบตัวต่อไปอีก จนกระทั่งมวลของมันถูกบดจนเหลือเป็น จุดเล็ก ๆ ที่มีความหนาแน่นสูงมหาศาล ความจริงขบวนการเช่นนี้ก็คือ ดวงดาวยุบ ตัวจนไม่มีตัวเองเหลืออยู่เลยกลายเป็นหลุมดำ "แบลกโฮล" อยู่ในอวกาศ และเมื่อ มีสิ่งใดผ่านเข้ามาใกล้ ก็จะถูกมันดูดลงหลุมไป ขนาดของหลุมดำ ขึ้นอยู่กับมวลของดวงดาวที่สลายตัวกลายเป็นหลุมดำ ดวงดาวที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ 3 เท่าตัว เมื่อกลายเป็นหลุมดำ จะมีเส้นผ่า- ศูนย์กลางประมาณ 18 กิโลเมตร (11 ไมล์) หลุมดำจะมีขนาดใหญ่กว่านี้ ถ้าหากว่า ดวงดาวที่สลายตัวมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตกลงไปในหลุม ดำ ซึ่งเป็นหลุมดำไม่มีก้นหลุม จะพบจุดอวสาน คือ ถูกบดขยี้ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ อีกเลย
ตอบลบในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับแต่ปี พ.ศ. 2513 นั้น นักวิทยาศาสตร์สาขาดาราศาสตร์ทั้งหลายก็พากันบอกเป็นเสียงเดียวว่า เจ้าสิ่งที่เรียกว่าหลุมดำหรือ Black Holeนั้นได้จัดการออกล่าเหยื่อเขมือบดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้าไปแล้วมากต่อมาก และหลังจากเขมือบดาวเหล่านี้ไปชั่วระยะหนึ่งแล้ว มันก็หยุดการล่าเหยื่อของมันไปชั่วระยะหนึ่ง
ตอบลบช่วงที่ Black Hole อยู่เฉยๆ ไม่คันปากคันคอจะกินดาวอย่างที่เคยนั้น นักดาราศาสตร์บอกว่ามันกำลังขอเวลาสำหรับ “ย่อย” ดาวที่เป็นอาหารของมันอยู่ มาถึงตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าสังเกตสังเกตเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ กำลังร้องบอกว่าเจ้าหลุมดำนี้ เริ่มต้นที่จะออกล่าเขมือบดวงดาวใหม่แล้ว แต่โชคดีที่ว่าโลกเรานั้นยังอยู่ไกลมากจากถิ่นที่สัตว์ร้ายแห่งเอกภพนี้มันสิงสถิตอยู่ ไม่เช่นนั้นสักวันหนึ่งโลกใบนี้ ก็คงถูกมันเขมือบ และจัดการย่อยอร่อยปากอร่อยกระเพาะมันไปเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม วันสุดท้ายของโลกและสุริยจักรวาลนั้นก็ยังมีโอกาสมาถึงเหมือนกัน เพราะดวงดาวเพื่อนบ้านตลอดจนถึงดวงอาทิตย์ อาจจะถือว่าสุริยจักรวาลทั้งระบบนั้นกำลังค่อยๆ ถูกดูดให้เข้าไปหาเจ้า Black Hole นี้ทีละน้อยๆ แต่ว่าเรื่องนี้ก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจขนข้าวของอพยพกันหรอกนะครับ เพราะนักดาราศาสตร์กล่าวว่า อีกอย่างน้อยๆ ก็นับสิบๆ ล้านปีนั่นแหละกว่าที่โลกจะกลายเป็นเหยื่อเจ้าสัตว์ร้ายแห่งเอกภพ เวลาป่านนั้นเราจะตายไปเกิดที่ไหนอีกกี่สิบกี่ร้อยหรือกี่ล้านชาติก็ไม่รู้
ปรากฎการณ์สัตว์ร้ายแห่งเอกภพหรือหลุมดำนี้อาจจะมีมานานนับร้อยพันหมื่นล้านปีมาแล้ว แต่ก็เพิ่งเป็นที่ประจักษ์กันในหมู่มนุษย์เพียงไม่นานมานี้ ก็เมื่อคนเรามีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ สามารถพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้รอบตัวให้ทันสมัยสมใจนึกมากขึ้น เพราะความก้าวหน้านี้เอง ที่ทำให้เราได้มองเห็นเจ้าสัตว์ร้ายนี้ ด้วยความรู้จากสมมติฐานกลายไปเป็นทฤษฎี
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2451 หรือ 81 ปีมาแล้ว มีปรากฎการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่บริเวณทุ่งทุงกัสทางตอนกลางของไซบีเรีย ปรากฏการณ์นี้ได้แก่การระเบิดเสียงกึกก้องกลางอากาศ และมีการสั่นสะเทือนอย่างมหาศาลของแผ่นดินบริเวณนั้นและในอาณาเขตรัศมีหลายร้อยกิโลเมตรโดยรอบ บรรดาผู้ที่อาศัยในละแวกทุงกัสนั้นต่างให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะเกิดการระเบิดนั้นพวกตนแสบตาจ้าไปหมดด้วยแสงอันขาวนวลอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน แสงนั้นทำให้ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างนั้นมืดมิดไปชั่วขณะ และเกิด “เสาไฟมหึมา” พลุ่งขึ้นมาจากพื้นโลก
ถึงเวลานี้นักวิทยาศาสตร์อเมริกากันกำลังบอกว่าเจ้าหลุมดำที่หยุดนิ่งย่อยอาหารดาวที่มันก้มหน้าเขมือบไปพักหนึ่งนั้น เริ่มขยับเขยื้อนท้องร้องขึ้นมาแล้ว และก็กำลังเริ่มเขมือบดาวฤกษ์ที่ตุปัดตุเป๋เข้าไปใกล้ๆ มันเป็นอาหารอีกครั้งหนึ่ง ฟังแล้วก็น่าขนหัวลุก
ตอบลบหลุมดำนี้มันคืออะไรกันแน่ เราเห็นจะต้องรอไปสักปีสองปีอาจจะรู้จักมันมากกว่าที่รู้อยู่แล้ว เพราะจากวิทยาการที่ก้าวหน้ามากขึ้น เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ขณะนี้นักดาราศาสตร์สามารถที่จะส่งกล้องส่องดาวหรือกล้องโทรทัศน์ออกไปเล็งดูกันได้นอกโลกแล้ว โดยฝากไปกับบัลลูนที่ส่งขึ้นไปโคจรในอวกาศแล้วส่งภาพข้อมูลต่างๆ กลับมาดูกันเพื่อตัดสินกันให้แน่ชัดว่าเจ้าจอมเขมือบนี้มันคืออะไรกันแน่...
ขอบคุณเว็บ http://atcloud.com/stories/67581
“รูหนอน” คือสิ่งที่เชื่อกันว่าจะเป็นประตูพาข้ามเวลาไปยังอดีตหรืออนาคตรวมถึงเอกภพอันห่างไกลได้ โดยภาพง่ายๆ ของทางลัดนี้สามารถแสดงได้โดยการเจาะรูตรงปลายแผ่นกระดาษ 2 รูด้านตรงข้ามกันซึ่งแสดงถึงจุดที่ห่างไกลกันในเอกภพ แล้วม้วนด้านใดด้านหนึ่งให้มาซ้อนทับกันและหากบิดเบี้ยวเวลาด้วยวิธีนี้ได้ คนเราอาจจะกระโดดลงรูหนอนแล้วไปโผล่ยังกาลเวลาที่ห่างออกไปหรือสถานที่อัน ไกลโพ้น โดยต้องผ่านบริเวณ “คอคอด” (throat) ของรูหนอนที่มีลักษณะคล้ายท่อและปลายทั้ง 2 ด้านที่บานออก
ตอบลบและตามแนวคิดหนึ่งเกี่ยวกับรูหนอน ประตูข้ามเวลานี้จะเปิดอยู่ได้ด้วยการบรรจุสิ่งที่เรียกว่า “วัตถุอันแปลกประหลาด” (exotic matter) ลงในคอคอดรูหนอนหรือบริเวณรอบๆ ซึ่งเป็นวิธีอันน่าแปลกที่เดียว แต่วัตถุเหล่านั้นจะถูกผลักมากกว่าถูกดูดโดยแรงโน้มถ่วง ซึ่งกล่าวได้ว่ามีพลังงานเป็นลบและมีความหมายที่น่าปวดหัวมากกว่าอวกาศที่ ว่างเปล่า (ไม่มีพลังงาน) ดังนั้นเพื่อจะอธิบายวิธีการนี้ นักวิทยาศาสตร์ต้องมองข้ามกฎฟิสิกส์ดั้งเดิมไปสู่โลกของกลศาสตร์ควอนตัม
ทั้งนี้ตามหลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก (Heisenberg’s Uncertainty Principle) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของควอนตัมฟิสิกส์ (Quantum Physics) เมื่ออนุภาคเล็กๆ ในระบบๆ หนึ่งสั่นด้วยช่วงเวลาหนึ่ง (t) จะเกิดพลังงาน (E) ขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เมื่อคูณค่าทั้ง 2 เข้าด้วยกันแล้วจะได้มากกว่าหรือเท่ากับค่าคงที่ค่าหนึ่งที่เรียกว่า “ค่าคงที่ของพลังค์” (Planck’s constant) และถ้าระบบใดๆ ไม่มีพลังงาน (E=0) นั่นหมายความว่าอะตอมต้องสั่นด้วยเวลาเป็นอนันต์ (infinite)
ทางลัดของจักรวาลซึ่งเชื่อมจุดหนึ่งในเอกภพไปยังอีกจุดหนึ่งนี้ถูก เติมแต่งจินตนาการจากนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ให้เป็นทั้งตัวอธิบายการเดิน ทางข้ามกาลเวลาและการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่ถูกกำหนดว่าไม่มีสิ่งใดเคลื่อน ที่เร็วกว่าแสง และเหมือนเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับสร้างยานข้ามเวลาแบบ "เรียลไทม์" แต่มีนักวิทยาศาสตร์ 2 กลุ่มที่แสดงแนวคิดว่าในการเดินข้ามมิติผ่านรูหนอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
กลุ่มแรกคือ ดร.สตีเฟน ซู (Dr.Stephen Hsu) และโรมัน บิวนี (Roman Buniy) แห่งมหาวิทยาลัยโอเรกอน (University of Oregon) สหรัฐซึ่งตีพิมพ์ผลงานผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ arXiv ได้ ค้านว่าทฤษฎีรูหนอนแบบเดิมนั้นอาจจะมีช่องโหว่ก็ได้ ซึ่งนักวิจัยทั้ง 2 ได้เพ่งพินิจรูหนอนแบบ “ท่อ” กาล-อวกาศที่มีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยจากกฎฟิสิกส์ดั้งเดิม และเสนอว่าไม่ควรนำวัตถุแปลกประหลาดเข้ามารวมในการคำนวณด้วย
ตอบลบทั้งนี้รูหนอน “กึ่งดั้งเดิม” ซึ่งรวมวัตถุแปลกประหลาดเข้าไปคำนวณด้วยนั้น เป็นรูหนอนชนิดที่หลายคนใฝ่ฝันที่จะสร้างขึ้นมาเพื่อการเดินทางข้ามเวลามาก ที่สุด เพราะผู้เดินทางสามารถกำหนดได้ว่าพวกเขาจะไปโพล่ยังจุดไหนและเวลาใด แต่รูหนอนส่วนมากถูกควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จโดยกฎทางกลศาสตร์ควอนตัม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคล้ายๆ กับว่าจะขนส่งสัมภาระไปยังสถานที่และเวลาไม่ได้ตรงตามต้องการ
อีกทั้งเป็นที่ทราบกันดีว่าการละเมิดหลักการทางฟิสิกส์อันเนื่องจาก ระบบที่ไม่มีพลังงานเป็นผลให้ระบบนั้นมีความไม่เสถียร ซึ่งผลการคำนวณของนักวิจัยทั้ง 2 แสดงให้เห็นว่ารูหนอนซึ่งรวมวัตถุแปลกประหลาดเข้าไปด้วยนั้นจะมีความไม่ เสถียร และได้นำเสนอไปในเอกสารก่อนหน้านี้ของพวกเขาด้วยแล้ว
“เรา ไม่ได้ปฏิเสธว่าคุณจะสร้างรูหนอนไม่ได้ แต่รูหนอนที่พวกคุณต้องการสร้างขึ้นมาและสามารถทำนายได้ว่ามิสเตอร์สปอค (Mr Spock - ตัวละครตัวหนึ่งในสตาร์เทรค) จะถึงนิวยอร์กตอนบ่าย 2 ของวันนี้นั้น ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำทั้ง 2 อย่างพร้อมๆ กันได้” ดร.ซูกล่าว
ส่วนการศึกษาอีกด้านหนึ่งโดย คริส ฟิวสเตอร์ (Chris Fewster) จากมหาวิทยาลัยแห่งยอร์ค (the University of York) สหราชอาณาจักร และธอมัส โรมัน จากมหาวิทยาลัย เซ็นทรัล คอนเนคติกัต สเตต (Central Connecticut State University) สหรัฐ ใช้วิธีการที่ต่างออกไปเพื่อไขปริศนาของรูหนอนนี้ โดยงานวิจัยของพวกเขานั้นอาศัยพื้นฐานที่คนอื่นศึกษาก่อนหน้านี้ว่าคอขอดของ รูหนอนสามารถเปิดรับวัตถุแปลกประหลาดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ฟิวสเตอร์ และโรมันคำนวณว่าแม้จะสามารถสร้างอะไรคล้ายๆ กับรูหนอนได้ แต่คอขอดของรูหนอนก็แคบเกินกว่าจะเดินทางผ่านกาลเวลาได้ แม้จะเป็นไปได้ในเชิงทฤษฎีว่าหากปรับเรขาคณิตของรูหนอนดีๆ คอขอดของรูหนอนก็อาจจะกว้างพอที่จะให้คนๆ หนึ่งเดินทางทะลุมิติผ่านไปได้ แต่ว่าการจะสร้างรูหนอนที่คอขอดมีรัศมีกว้างพอที่จะให้โปรตอนตัวหนึ่งผ่านไป ได้ต้องปรับรายละเอียดโครงสร้างในระดับ 1/1030 และรูหนอนขนาดพอดีตัวคนนั้นต้องปรับกันที่ความละเอียด 1/1060 เลยทีเดียว
“พูดอย่างตรงไปตรงมาเลยนะ ไม่มีวิศวกรคนไหนที่จะทำแบบนี้ได้” นักวิจัยจากยอร์คกล่าว แม้ว่าพวกเขาจะพบวิธีแห่งความหวังที่จะสร้างรูหนอนขึ้นมาได้ แต่โดยทางเทคนิคแล้วดูจะเป็นไปได้ยากยิ่งนัก และนักวิจัยทั้ง 2 ก็กำลังเตรียมเขียนต้นฉบับด้วยลายมือตัวเองก่อนที่จะส่งไปตีพิมพ์ในสิ่งที่ พวกเขาค้นพบ
อย่างไรก็ดีก็ยังมีกลุ่มคน ที่สนับสนุนแนวคิดการสร้างรูหนอนที่กำหนดสถานที่และเวลาได้ โดยนักฟิสิกส์คนหนึ่งกล่าวว่าเขามองเห็นปัญหาในข้อสรุปของทั้ง ดร.ซูและบิวนี ซึ่งเขาแสดงความเห็นว่าการละเมิดหลักการทางฟิสิกส์จากสภาวะที่ไม่มีพลังงาน นั้นเกิดขึ้นในหลายปรากฏการณ์ แต่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอเรกอนก็พยายามที่จะมองเพื่อละปัญหานี้ไป
“ถ้า มันเป็นจริงนะ เราก็ไม่ต้องการกังวลเกี่ยวกับการแผ่รังสีของฮอว์กิงจากหลุมดำเลยสิ เพราะหลุมดำที่ว่างเปล่าโดยสมบูรณ์นั้นก็ไม่เสถียร” และผู้แสดงความกังขาก็ยังชี้อีกว่าหลักการภายใต้กฎฟิสิกส์นั้นไม่ใช่ที่ต้อง สงสัย แต่ความท้าทายที่แท้จริงอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้วิศวกรสร้างหลุมดำที่ใหญ่ พอจะใช้งานได้จริง
สำหรับสตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cembridge University) ก็เป็นนักวิจัยอีกคนหนึ่งที่พยายามจะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับหลุมดำ โดยประมาณปี ค.ศ.1980 บางสิ่งที่เป็นพื้นฐานอยู่ภายใต้กฎฟิสิกส์นั้นจะต้องป้องกันรูหนอนจากการใช้ เพื่อเดินทางข้ามเวลา ซึ่งความคิดดังกล่าวเป็นพื้นฐานของการคาดเดาของฮอว์กิงเกี่ยวกับการปกป้องเรื่องของเวลา (Hawking’s Chronology Protection Conjecture) ซึ่งเชื่อว่าการเดินทางย้อนเวลาไม่สามารถเกิดขึ้นได้
ขอบคุณเว็บ /http://www.manager.co.th
ตอบลบผมคิดว่านะเราพึ่งรู้จักมันแค่เสี้ยวเดียวหรืออาจะไม่ถึงเสี้ยวด้วยซ้ำ
ตอบลบแต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับทฤษดีแต่เรายังไม่รู้จักมันดีจริงๆแค่นั้น ผมมีความเชื่อในใจว่าหลุมดำหรือรูหนอนอะไรนั่นอาจจะเป็นประตูข้ามกาลเวลาได้จริงๆ หรือไปอีกฟากของจักรวาลได้จริงๆ (จากคนที่สนใจเรื่องอวกาศ)^^
Slots & Casinos - Casino.com - Mapyro
ตอบลบGet directions, reviews and 시흥 출장안마 information for 김제 출장안마 Slots & Casinos in Harrisburg, WV. WV Casino in 고양 출장샵 Parkland; Hollywood Casino 논산 출장샵 and 이천 출장안마 Hollywood Casino